เมื่อประกันสุขภาพจำเป็นกับเหล่าฟรีแลนซ์มากกว่าที่คิด

นับว่านี่เป็นยุคทองของคนที่สนใจทำอาชีพอิสระอย่างแท้จริง เพราะมีทั้งนวัตกรรมและความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เตรียมไว้รองรับมากมาย การสร้างงานให้กับตัวเองจึงไม่ได้เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงเหมือนกับสมัยก่อน กลับกลายเป็นว่าปัญหาสุขภาพและการเงินต่างหากที่ทำให้ฟรีแลนซ์ไม่เติบโตเท่าที่ควร แถมประกันสุขภาพที่เป็นตัวช่วยสำคัญก็ถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดายอีกด้วย

ประกันสุขภาพช่วยได้มากกว่าแค่เรื่องเจ็บป่วย
ตามปกติแล้วเนื้องานของฟรีแลนซ์จะเป็นไปในลักษณะที่ทำเมื่อไรก็ได้เงินเมื่อนั้น หยุดวันใดก็เท่ากับขาดรายได้ไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นหลายคนจึงใช้ร่างกายอย่างหนักโดยไม่รู้ตัว ประกันสุขภาพก็จะเข้ามาช่วยซัพพอร์ตในยามที่เจ็บป่วยกะทันหัน รวมถึงการดูแลสุขภาพองค์รวมให้พร้อมสำหรับการทำงานอยู่เสมอ ขณะเดียวกันก็ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของฟรีแลนซ์ได้ด้วย เพราะเมื่อมีอาการเจ็บป่วยก็ใช้สิทธิประกันสุขภาพได้ทันที ไม่ต้องดึงเงินเก็บที่มีอยู่มาใช้ หรือถ้าช่วงนั้นเงินหมุนไม่ทันจริงๆ ก็ยังใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้อยู่

หากไม่เจ็บป่วยเลยก็เท่ากับเสียเงินค่าประกันสุขภาพไปฟรีๆ 
นี่เป็นความคิดที่มักจะผุดขึ้นมาแล้วฉุดรั้งไม่ให้คนนั้นตัดสินใจทำประกันสุขภาพ ซึ่งความจริงมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะมีร่างกายสมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา ถึงไม่เจ็บป่วยหนักจนต้องนอนโรงพยาบาล ก็ต้องมีอาการเล็กๆ น้อยๆ ที่คอยถ่วงไม่ให้เราทำงานได้เต็มศักยภาพอยู่ดี เช่น คนที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำงานตลอด อาจมีปัญหาสายตาอักเสบหรือตาพร่า คนที่ต้องขับรถอย่างต่อเนื่องก็มีปัญหากล้ามเนื้อล้า เป็นต้น ในเมื่อฟรีแลนซ์ไม่ได้มีสวัสดิการอะไรมารองรับ ก็ควรจะต้องสร้างเครื่องป้องกันสำหรับลดความเสี่ยงเหล่านั้นเอาไว้ด้วย 

นอกจากนี้ หากคิดว่ามันยังไม่คุ้มและยังหนักเกินไปที่จะจ่ายให้ประกันสุขภาพ ก็ลองเลือกแผนที่เป็นประกันสุขภาพร่วมกับการออมเงินดูก่อนก็ได้ แม้มันจะคุ้มครองการรักษาไม่มากเท่าประกันที่ไม่ออมเงิน แต่ก็ช่วยให้เราอุ่นใจได้มากพอสมควร ซึ่งถือว่าเป็นแผนที่เหมาะกับคนร่างกายแข็งแรง ไม่ได้เจ็บป่วยบ่อยๆ อีกด้วย