• English
  • ภาษาไทย

รูปแบบการประกันภัยชีวิต มีกี่ประเภท

สำหรับใครที่กำลังศึกษาเรื่องของการทำประกันชีวิตกคงกำลังสงสัยกันอยู่ใช่ไหมครับว่า ทำไมมันถึงมีประกันอยู่มากมายขนาดนี้ ตั้งแต่ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ประกันเงินออม เป็นต้น จนอาจเกิดคำถามที่ว่า เราควรเริ่มำประกันแบบไหนก่อน โดยวันนี้เราจะขอมาเล่าถึงรายละเอียดของการทำประกันที่คุณต้องรู้กันครับ

1. การประกันชีวิต (Life Insurance)

การทำประกันชีวิต หมายรวมถึง การสร้างหลักประกันให้กับตัวเราเองและบุคคลที่อยู่ในอุปการะของเรา เป็นการประกันต่อความสูญเสีย เสียหายอันจะเกิดแก่บุคคล หรือกลุ่มบุคคล โดยสัญญาจักชดเชยเมื่อมีการสูนเสียหรือเสียชีวิต และอาจมีความคุ้มครองอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามา เช่น การประกันอุบัติเหตุและสูญเสียอวัยวะ การประกันกรณีทุพพลภาพ หรือการประกันสุขภาพ เพราะเมื่อบริษัทได้รับใบคำขอทำประกันชีวิตและเบี้ยประกันของผู้เอาประกันแล้ว และถ้าบริษัทตกลงรับประกันชีวิต บริษัทจะออกกรมธรรม์ให้ ซึ่งถือเป็นสัญญาที่บริษัทประกันสัญญาว่าจะจ่ายเงินให้กับผู้รับประโยชน์หรือผู้เอาประกันภัยตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์นั้น อย่างไรก็ตามเราไม่ได้ซื้อประกันชีวิตเพราะคนเราต้องเสียชีวิตเพียงอย่างเดียวแต่วัตถุประสงค์หลักของการซื้อประกันชีวิตก็เพื่อเป็นหลักประกันไม่ให้รายได้ของเราสูญสิ้นไป โดยเฉพาะในยามที่เราเสียชีวิตไปก่อนเวลาอันควร และหากยังมีชีวิตอยู่ เมื่อพ้นระยะเวลาที่สามารถทำงานได้ ก็ยังได้รับความคุ้มครองด้วยเช่นกัน

2. การประกันวินาศภัย (Non-Life Insurance)

การประกันวินาศภัย หมายถึง การที่ผู้รับประกันภัยทำสัญญายินยอมที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือชดใช้เงินจำนวนหนึ่งในกรณีที่เกิดความเสียหายเกี่ยวกับที่เอาประกันภัย โดยที่ผู้เอาประกันภัยตกลงจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันภัย โดยการประกันวินาศภัยมีประโยชน์ในการคุ้มครองทรัพย์สิน และกิจการของผู้เอาประกันภัย ซึ่งการประกันวินาศภัยแบ่งออกเป็นสี่ประเภท คือ

•    การประกันอัคคีภัย (Fire Insurance)

•    การประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance)

•    การประกันภัยทางทะเล (Marine Insurance)

•    การประกันเบ็ดเตล็ด (Miscellaneous/Casualty Insurance)

หากคุณกำลังมองหาแผนประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองครบ จบในกรมธรรม์เดียวไม่ต้องซื้อเพิ่มอีก เราขอแนะนำ ประกันชีวิต KWI แบบประกันชีวิตและออมทรัพย์ระยะกลางที่กำลังดี คุ้มครองไม่สั้นไป และชำระเบี้ยไม่ยาวเกิน! ชำระเบี้ยประกันต่อเนื่องแค่ 8 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองนอกเหนือจากการออมอย่างต่อเนื่องสูงถึง 18 ปี พร้อมสิทธิประโยชน์รับเงินคืนอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2 ถึงครบกำหนดสัญญารวมสูงสุดถึง 180% หรือสนใจสอบถามประกันชีวิตตัวอื่นๆ